“ยีนอ้วน” หรือในทางวิทยาศาสตร์มักเรียกกันว่า ยีน FTO (Fat Mass and Obesity-associated gene) เป็นยีนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมน้ำหนักและการสะสมของไขมันในร่างกาย คนที่มียีน FTO จะมีแนวโน้มที่จะสะสมไขมันได้ง่ายขึ้น และอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอ้วนมากกว่าคนที่ไม่มียีนนี้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคนที่มียีนอ้วนจะมีความเสี่ยงสูงในการเพิ่มน้ำหนัก แต่ปัจจัยอื่น ๆ เช่น การกินอาหาร การออกกำลังกาย และการใช้ชีวิตประจำวัน ก็มีผลต่อการควบคุมน้ำหนักเช่นกัน ยีนอ้วนไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าสุดท้ายแล้วเราจะต้องอ้วน แต่เป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่เพิ่มโอกาสในการเกิดโรคอ้วนเท่านั้น

 

คนที่มียีนอ้วน (หรือมียีน FTO) จะแตกต่างจากคนทั่วไปในหลายๆ ด้าน ซึ่งมีผลต่อการควบคุมน้ำหนักและการสะสมของไขมันในร่างกาย ดังนี้:

  1. ความอยากอาหาร: คนที่มียีนอ้วนมักจะมีความอยากอาหารมากกว่า โดยเฉพาะอาหารที่มีพลังงานสูง เช่น อาหารที่มีไขมันและน้ำตาลมาก ทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะกินมากกว่าปกติ ซึ่งส่งผลให้การสะสมพลังงานที่เหลือกลายเป็นไขมันมากขึ้น
  2. อัตราการเผาผลาญ: บางคนที่มียีนนี้อาจมีอัตราการเผาผลาญพลังงานที่ต่ำกว่าปกติ ทำให้พลังงานที่รับเข้าสู่ร่างกายไม่ถูกเผาผลาญอย่างมีประสิทธิภาพ กลายเป็นไขมันสะสม
  3. การสะสมไขมัน: ยีน FTO ส่งผลต่อกระบวนการสะสมไขมันในร่างกาย ทำให้คนที่มียีนนี้มักจะสะสมไขมันได้ง่ายขึ้น แม้ว่าอาจจะกินพอๆ กับคนอื่นที่ไม่มียีนนี้
  4. ความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วน: คนที่มียีน FTO จะมีความเสี่ยงสูงในการเป็นโรคอ้วน เมื่อเทียบกับคนที่ไม่มียีนนี้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มียีนนี้จะอ้วนเสมอไป ปัจจัยอื่นๆ อย่างเช่น การออกกำลังกายและการกินอาหารสุขภาพสามารถช่วยลดผลกระทบได้
  5. ปฏิกิริยาต่อการออกกำลังกาย: มีการศึกษาบางส่วนที่พบว่าคนที่มียีน FTO อาจมีปฏิกิริยาต่อการออกกำลังกายที่แตกต่างกัน โดยอาจต้องการการออกกำลังกายที่เข้มข้นกว่าคนปกติในการควบคุมน้ำหนัก

ถึงแม้ว่ายีน FTO จะมีบทบาทในการกำหนดแนวโน้มของร่างกาย แต่การควบคุมน้ำหนักก็ยังสามารถทำได้ผ่านการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต